หน้าแรก ร้านซ่อมโน๊ตบุ๊คใกล้ฉัน โน๊ ต บุ๊ค ไม่ ขึ้น หน้า desktop

ซ่อม Notebook: โน๊ ต บุ๊ค ไม่ ขึ้น หน้า desktop

10 วิธีแก้ไขปัญหาโน้ตบุ๊ค แบตหมดเร็ว ใหม่ล่าสุดปี 2022

0

ปัญหาแบตโน้ตบุ๊คหมดเร็วนั้นสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งการใช้งานอุปกรณ์นานเกินไป เปิดโปรแกรมทิ้งไว้ ฯลฯ ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้ใครหลายคนเข้าใจมากยิ่งขึ้นว่า ควรทำอย่างไรจึงจะสามารถยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ให้ได้นานมากขึ้น เพราะการส่งซ่อมก็ดูเหมือนต้องใช้เวลานานมากเกินไป อาจต้องรีบทำงานส่ง ไหนต้องเล่นเกมที่ชอบ ทำกิจกรรมที่ใช่ ซึ่งต่างต้องเผชิญกับปัญหานานาประการที่อาจส่งผลให้เกิดความหงุดหงิด รำคาญใจตามมา ดังนั้นในวันนี้เราจึงมี 10 วิธีแก้ไขปัญหา โน้ตบุ๊ค แบตหมดเร็ว ใหม่ล่าสุดปี 2022 ที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเองมาแนะนำ

>> ปรึกษาปัญหาอาการเสีย โน๊ตบุ๊ค คลิกเลย

10 วิธีแก้ไขปัญหาโน๊ตบุ๊ค แบตหมดเร็ว

1.  ตั้งค่าโน้ตบุ๊คเข้า Sleep Mode 

เหมาะสำหรับบางคนที่มีความต้องการอยากใช้งานโน้ตบุ๊คอย่างต่อเนื่องและไม่อยากเสียเวลาในการเปิด – ปิดเครื่อง แต่ก็ยังอยากประหยัดแบตเตอรี่

2.  ลดความสว่างของหน้าจอ

ความสว่างของหน้าจอก็เป็นอีกหนึ่งในระบบที่กินพลังงานแบตเตอรี่ของโน้ตบุ๊ค หากเป็นไปได้ควรปรับลดแสงให้อยู่ในระดับที่พอเหมาะ และสบายกับสายตามากที่สุด ซึ่งก็จะช่วยได้ทั้งเรื่องสุขภาพของสายตาและสุขภาพของแบตเตอรี่

3.  ปิดแสง Black Light ของคีย์บอร์ด

สำหรับคีย์บอร์ดที่สามารถส่องสว่างและมีสีสันสวยงาม แนะนำให้ถอดสาย USB หรือยกเลิกการเชื่อมต่อบลูทูธกับคอมพิวเตอร์ เพื่อลดการใช้งานแบตเตอรี่ คีย์บอร์ดโน๊ตบุ๊คกดไม่ติด

4.  ตัดอุปกรณ์เชื่อมต่อไร้สายที่ไม่ได้ใช้ทั้งหมด

รู้หรือไม่การเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะผ่านการเชื่อมต่อ USB หรือเชื่อมต่อแบบไร้สาย ล้วนแล้วแต่ทำให้โน้ตบุ๊คเปลืองพลังงานแทบทั้งสิ้น ดังนั้นหากพบว่า ณ ช่วงเวลาดังกล่าวไม่ได้ใช้งาน ก็ควรถอดหรือหลีกเลี่ยงการเชื่อมต่อจะดีที่สุด เพื่อประหยัดการใช้งานแบตเตอรี่

5.  ถอดอุปกรณ์เสริม

อุปกรณ์เสริมส่วนใหญ่มักเพิ่มความสะดวกสบายในการทำงาน แต่หารู้ไม่ว่า การใช้อุปกรณ์เสริมเหล่านี้ก็เป็นอีกหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่โน้ตบุ๊คหมดเร็ว ดังนั้นหากเป็นไปได้เมื่อพบว่า ตนเองไม่ใช้งานก็ควรหลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์เสริม เช่น เมาส์ กระดานวาดรูป

6.  เช็กโปรแกรม

หากโปรแกรมไหนที่พบว่า ตนเองไม่ใช้งานแล้ว และกินแบตเตอรี่เยอะ แนะนำให้ทำการลบโปรแกรมดังกล่าวทิ้ง แบตโน๊ตบุ๊คเสื่อม

7.  พับจอเก็บเมื่อไม่ได้ใช้งาน

เป็นวิธีเข้าสู่โหมดไฮเบอร์เนท ซึ่งเป็นโหมดที่ช่วยประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ และสามารถพับเก็บหน้าจอลงได้

8.  ปรับเป็น Dark Mode

สามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่กดปุ่ม Power และพิมพ์คำว่า Dark Mode และเข้าไปโดยตรง กดเลือกตรงช่อง Should Your Color สามารถเปลี่ยนเป็น Dark Mode ได้ในทันที

9.  ตั้งค่าให้ซิงก์ข้อมูลเมื่อเสียบปลั๊กเท่านั้น

การซิงก์ข้อมูลถือเป็นอีกหนึ่งในกระบวนการที่ต้องใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ และยิ่งเป็นความสามารถจากทาง Microsoft OneDrive ด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำการซิงก์ข้อมูลให้กับเราตลอดเวลา ส่งผลทำให้กินแบตเตอรี่มากขึ้น ดังนั้นควรทำการตั้งค่าซิงก์ข้อมูลเฉพาะตอนที่เสียบปลั๊กก็เพียงพอ 

10.  ปรับเข้าโหมดประหยัดไฟ

โหมดประหยัดไฟมีด้วยกันทั้งหมด 4 หมวด ได้แก่ ใช้งานเต็มประสิทธิภาพ เน้นประสิทธิภาพ เน้นประหยัดพลังงาน และประหยัดพลังงานที่สุด

อย่างไรก็ตามการชาร์จแบตเตอรี่แต่ละครั้งแม้สามารถใช้งานได้หลายชั่วโมง แต่หลายชั่วโมงที่ว่านั้น ก็เกิดขึ้นจากหลากหลายปัจจัย หากเลือกใช้งานโปรแกรมหรือระบบไหนที่เสี่ยงต่อการใช้งานแบตเตอรี่สูง ก็อาจมีความเป็นไปได้ที่ระยะเวลาการใช้งานของโน้ตบุ๊คน้อยลง ดังนั้นหากอยากประหยัดพลังงานแบตเตอรี่และใช้งานได้นานขึ้น ก็แนะนำให้ลองนำ 10 วิธีแก้ไขปัญหาโน้ตบุ๊ค แบตหมดเร็ว ใหม่ล่าสุดปี 2022 ที่เรากล่าวไปข้างต้นนำไปใช้ดู

>> ติดต่อ ร้านซ่อมโน๊ตบุ๊ค คลิกเลย


ร้านซ่อมโน๊ตบุ๊ค  ทุกอาการเสีย Tech Avenue

Fix Notebook Repair Near ME


รีวิวจริงจากลูกค้า ที่ใช้บริการร้าน Tech Avenue


วิธีส่งซ่อม โน๊ตบุ๊ค ที่ร้าน Tech Avenue

ร้าน Tech Avenue ร้านซ่อม โน๊ตบุ๊ค  ที่มีหลากหลายช่องทางในการส่งเครื่องมาซ่อมที่ร้านของเรา ตามที่ลูกค้าสะดวกที่สุด เพราะเราใส่ใจเรื่องความสะดวก ของลูกค้าเป็นสำคัญที่สุด คือช่องทางที่ส่งซ่อม ไม่ว่าจะเป็น


สาเหตุที่ทำให้ โน๊ตบุ๊คร้อน และวิธีแก้ไขเบื้องต้นง่ายๆ

0

ปฏิเสธไม่ได้ว่า โน๊ตบุ๊คร้อนนั้นเป็นปัญหาที่ทำให้ใครหลายคนเกิดความรู้สึกหงุดหงิดและรำคาญใจ เพราะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็จะตามมาด้วยโน๊ตบุ๊คค้าง ใช้งานไม่ได้ จะติดต่อให้ช่างมาซ่อมก็ดูเหมือนยุ่งยากและใช้เวลานานเกินไป ดังนั้นในวันนี้เราจึงจะพาคุณไปทำความเข้าใจถึง สาเหตุที่ทำให้ โน๊ตบุ๊คร้อน และวิธีแก้ไขเบื้องต้นง่ายๆ ที่จะทำให้คุณหายหัวร้อน

>> ปรึกษาปัญหาอาการเสีย โน๊ตบุ๊ค คลิกเลย

สาเหตุที่ทำให้ โน๊ตบุ๊คร้อน และวิธีแก้ไขเบื้องต้นง่ายๆ

โน๊ตบุ๊คร้อนสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งจากปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก แต่สาเหตุที่เราจะพูดถึงในวันนี้เน้นเป็นปัจจัยภายใน พร้อมทั้งวิธีการแก้ไขเบื้องต้นง่าย ๆ ที่คุณสามารถทำตามได้ในทันที

1.  ใช้งานต่อเนื่องนานเกินไป

ระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่องกันมากกว่า 3 – 5 ชั่วโมง จะส่งผลทำให้เครื่องโน๊ตบุ๊คร้อนเกินกว่าอุณหภูมิปกติ ซึ่งสามารถสังเกตได้จากระบบการปฏิบัติการต่าง ๆ เริ่มช้าและหนืดกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็น Microsoft Word การเข้าอินเทอร์เน็ต โน๊ตบุ๊คมีปัญหา หรือโปรแกรมใด ๆ ก็ตามบนคอมพิวเตอร์ วิธีการแก้ไขง่าย ๆ เบื้องต้น คือ ให้คุณ Shut Down คอมพิวเตอร์ประมาณ 30 นาที หรือรอจนกว่าโน๊ตบุ๊คเย็นลง แล้วค่อยเปิดเครื่องและเข้าใช้งาน

2.  เปิดแท็บอินเทอร์เน็ตเยอะเกินไป

บางคนการจะโฟกัสไปกับการทำงานหรือทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งอาจไม่สนุกสนานหรือสร้างสรรค์มากพอ จึงอยากทำงานพร้อมกับการฟังเพลง เขียนนิยายไปพร้อม ๆ กับการดูหนัง ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้โน๊ตบุ๊คร้อน ดังนั้นเมื่อทำการเปิดแท็บและหากพบว่า แท็บดังกล่าวไม่ต้องการใช้งานแล้ว ก็ควรปิดให้เหลือประมาณ 1 – 3 แท็บ ก็จะช่วยทำให้โน๊ตบุ๊คทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และอุณหภูมิลดลง

3.  ลบโปรแกรมที่ไม่ใช้งาน

โปรแกรมแต่ละตัวนั้นมีลักษณะการใช้งานที่เฉพาะตัว และความเฉพาะตัวนี้เองก็มาพร้อมกับคุณสมบัติที่ช่วยทำให้สามารถสร้างความสะดวกสบายในการใช้งาน แต่ภายใต้ความสะดวกสบายเหล่านั้นมักมาพร้อมกับระบบที่ซับซ้อนและใช้พลังงานเยอะ ส่งผลทำให้คอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊คจำเป็นต้องประมวลผลมากขึ้น ส่งผลทำให้ความร้อนเพิ่มสูงขึ้นนั่นเอง ดังนั้นหากเป็นไปได้จึงควรทำการลบโปรแกรมที่ไม่ใช้แล้วออกไปบ้าง เพื่อไม่ให้กินพื้นที่มากเกินไป

4.  แบตเตอรี่เสื่อม

แน่นอนว่า ทุกอย่างย่อมมีอายุการใช้งานเช่นเดียวกันกับโน๊ตบุ๊คและแบตเตอรี่ หากพบว่า ใช้งานมานานกว่า 3 – 5 ปีแล้ว ยิ่งทำให้มีโอกาสพบว่า เครื่องร้อนได้ง่ายขึ้น ดังนั้นหากลองทำการตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นปัญหาที่เกิดจากตัวแบตเตอรี่เสื่อม ก็ควรรีบทำการเปลี่ยนทันที ก่อนที่ปัญหานั้นจะลุกลามและทำลายระบบภายในเครื่อง

หวังว่า ทั้งสาเหตุและวิธีการแก้ไขเบื้องต้น จะสามารถแก้ไขปัญหาโน๊ตบุ๊คร้อนได้อย่างตรงจุด ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากปัจจัยภายใน แต่อย่างไรก็ตามสำหรับปัจจัยภายนอกเองก็เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลเช่นเดียวกัน เช่น สภาพอากาศ สถานที่อับ ที่อาจส่งผลทำให้อากาศถ่ายเทไม่สะดวกหรือมีฝุ่นละอองมากเกินไป ส่งผลทำให้โน๊ตบุ๊คร้อน ดังนั้นก็อย่าลืมทำการสำรวจสิ่งแวดล้อมหรือบรรยากาศโดยรอบด้วยว่า กระตุ้นทำให้เกิดปัญหาดังกล่าวหรือไม่ หากใช่ ก็ควรรีบทำการปรับเปลี่ยนหรือแก้ไข

>> ติดต่อ ร้านซ่อมโน๊ตบุ๊ค คลิกเลย


ร้านซ่อมโน๊ตบุ๊ค  ทุกอาการเสีย Tech Avenue

ร้านซ่อมNotebook


รีวิวจริงจากลูกค้า ที่ใช้บริการร้าน Tech Avenue


วิธีส่งซ่อม โน๊ตบุ๊ค ที่ร้าน Tech Avenue

ร้าน Tech Avenue ร้านซ่อม โน๊ตบุ๊ค  ที่มีหลากหลายช่องทางในการส่งเครื่องมาซ่อมที่ร้านของเรา ตามที่ลูกค้าสะดวกที่สุด เพราะเราใส่ใจเรื่องความสะดวก ของลูกค้าเป็นสำคัญที่สุด คือช่องทางที่ส่งซ่อม ไม่ว่าจะเป็น


5 สาเหตุ ที่ทำให้โน๊ตบุ๊คค้าง พร้อมวิธีแก้ไขเบื้องต้น

0

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ปัญหาโน๊ตบุ๊คค้างนั้นเป็นปัญหาพื้นฐานที่ใครหลายคนต้องเผชิญกันมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน และยิ่งไปกว่านั้น คือ สร้างความรำคาญใจให้กับผู้ใช้งานอย่างมาก บางครั้งถึงขั้นหงุดหงิด หัวร้อน อยากโยนทิ้ง หรือไม่ก็เลือกซื้อเครื่องใหม่ไปเลย เพราะน่าจะเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาที่รวดเร็วมากกว่า สำหรับใครที่มีงบประมาณเพียงพอก็สามารถเลือกใช้วิธีการนี้ได้โดยไม่เดือดร้อน แต่สำหรับคนที่พบว่า ตนเองยังอยากใช้งานโน๊ตบุ๊คเครื่องเก่าอยู่ แล้วอยากได้วิธีการแก้ไข ในวันนี้เราจะพาคุณไปทำความเข้าใจ 5 สาเหตุ ที่ทำให้โน๊ตบุ๊คค้าง พร้อมวิธีแก้ไขเบื้องต้น มาให้คุณได้ลองนำไปใช้

>> ปรึกษาปัญหาอาการเสีย โน๊ตบุ๊ค คลิกเลย

5 สาเหตุ ที่ทำให้โน๊ตบุ๊คค้าง พร้อมวิธีแก้ไขเบื้องต้น

ก่อนที่จะทำการซ่อมหรือแก้ไขปัญหาที่กำลังจะเกิดขึ้น คุณควรมีความเข้าใจถึงสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นก่อนว่า มีอะไรบ้างและความเป็นไปได้ที่โน๊ตบุ๊คค้างมีสาเหตุ ดังต่อไปนี้

1.  ยังไม่ได้อัปเดต Windows

ในกรณีที่กำลังใช้งานโน๊ตบุ๊คโดยปกติและไม่มีการโหลดโปรแกรมหรือทำอะไรเพิ่มเติมเลย แต่พบว่า โน๊ตบุ๊คค้าง อาจมีความเป็นไปได้ที่เวอร์ชันของ Windows ที่คุณกำลังใช้เป็น Windows เวอร์ชันเก่าที่อาจส่งผลให้ไม่สามารถรองรับการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงพอ โน๊ตบุ๊ค อัพเดทไม่เสร็จ

วิธีการแก้: อัปเดต Windows

2.  โปรแกรมมีปัญหา

ในกรณีที่กำลังเล่นเกมหรือใช้งานโปรแกรมใดโปรแกรมหนึ่งแล้วพบว่า โน๊ตบุ๊คค้าง อาจมีความเป็นไปได้ที่มีสาเหตุมาจากตัวโปรแกรมเองหรือการใช้งานแรมหรือดิสก์ที่เยอะเกินไป

วิธีการแก้: ปิดหรือลบโปรแกรมที่ไม่จำเป็นออก 

3.  การ์ดจอมีปัญหา

หากคุณพบว่า โน๊ตบุ๊ค จอค้าง มีปัญหา ในช่วงเวลาที่คุณกำลังดูวิดีโอออนไลน์อยู่ แล้วมีอาการค้างเกิดขึ้น ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากการ์ดจอประมวลผลได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพหรือเสื่อมประสิทธิภาพลง

วิธีการแก้: รีสตาร์ตเครื่อง

4.  พื้นที่แรมเต็ม 

อาการในลักษณะนี้มักเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เราใช้งานโปรแกรมหลายโปรแกรมพร้อมกัน หรือใช้งานอินเทอร์เน็ต เปิดหลายแท็บพร้อมกัน ซึ่งส่งผลทำให้แรมไม่สามารถรองรับการใช้งานทั้งหมดพร้อมกันได้ และส่งผลทำให้โน๊ตบุ๊คค้างตามมาโน๊ตบุ๊ค แรมน้อย  

วิธีการแก้: เพิ่มพื้นที่แรม ด้วยการใช้งานแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ใช้สำหรับการจัดเก็บข้อมูล เช่น Google Drive, Google Chrome หรือ Cloud เป็นต้น

5.  ความร้อนสูงเกินไป

หากโน๊ตบุ๊คมีการระบายความร้อนได้ไม่ดี อาจส่งผลทำให้ค้างได้ง่าย ซึ่งอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุทั้งปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายใน สำหรับวิธีการแก้ไขแนะนำให้เปิดพัดลมในขณะที่ใช้งาน หรือเมื่อพบว่า เครื่องร้อนแล้วให้ทำการปิดเครื่องประมาณ 30 นาที แล้วค่อยกลับมาเล่นใหม่

หวังว่า 5 สาเหตุ ที่ทำให้โน๊ตบุ๊คค้าง พร้อมวิธีแก้ไขเบื้องต้นที่กล่าวไปต้น จะมีประโยชน์สำหรับคนที่กำลังเผชิญกับปัญหาอาการหัวร้อนและหงุดหงิดกับอุปกรณ์การทำงาน ที่ขยับนั่นนิดนี่หน่อยก็ดูเหมือนจะค้างไปเสียหมดสามารถกลับมาใช้งานได้อย่างรวดเร็ว แต่อย่างไรก็ตามหากพบว่า ทำการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นแล้วยังพบว่า โน๊ตบุ๊คยังคงค้างอยู่ แนะนำให้ปรึกษาช่างหรือให้ช่างทำการตรวจสอบจะดีกว่า

>> ติดต่อ ร้านซ่อมโน๊ตบุ๊ค คลิกเลย


ร้านซ่อมโน๊ตบุ๊ค  ทุกอาการเสีย Tech Avenue

Fix Notebook Repair Near ME


รีวิวจริงจากลูกค้า ที่ใช้บริการร้าน Tech Avenue


วิธีส่งซ่อม โน๊ตบุ๊ค ที่ร้าน Tech Avenue

ร้าน Tech Avenue ร้านซ่อม โน๊ตบุ๊ค  ที่มีหลากหลายช่องทางในการส่งเครื่องมาซ่อมที่ร้านของเรา ตามที่ลูกค้าสะดวกที่สุด เพราะเราใส่ใจเรื่องความสะดวก ของลูกค้าเป็นสำคัญที่สุด คือช่องทางที่ส่งซ่อม ไม่ว่าจะเป็น


โน๊ตบุ๊คเสีย สอบถามฟรี !
แอดไลน์คุยกับเราที่ @Notebooks แอด LINE คลิก