หน้าแรก ร้านซ่อมโน๊ตบุ๊คใกล้ฉัน โน๊ตบุ๊ค ร้อน

ซ่อม Notebook: โน๊ตบุ๊ค ร้อน

7 อาการเสียยอดนิยมของ โน๊ตบุ๊ค ปี 2022

0

ปฏิเสธไม่ได้ว่า โน๊ตบุ๊คเป็นอุปกรณ์ที่เหล่ามนุษย์วัยทำงานทุกคนต้องมีติดตัว แต่อายุการใช้งานก็ไม่ได้ยาวนานเสมอไป เช่นเดียวกันกับสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ที่เมื่อใช้แล้วก็จำเป็นต้องเสื่อมสภาพลง อย่างไรก็ตามสำหรับบางคนอาจเลือกฝืนใช้ต่อ เพราะคิดว่า อาการดังกล่าวน่าจะสามารถหาวิธีการแก้ไขเบื้องต้นได้ หรืออาจพอเข้าใจว่า กำลังพบเจออะไรอยู่ เพื่อที่จะเป็นประโยชน์นำไปใช้ในการหาแนวทางในการแก้ไขที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะทำด้วยตัวเองหรือนำไปใช้ในการอธิบายให้กับช่างฟัง ดังนั้นในวันนี้เราจึงมี 7 อาการเสียยอดนิยมของ โน๊ตบุ๊ค ปี 2022 มาให้คุณได้ลองอ่านดู หากพบปัญหาเหล่านี้เราก็ขอแนะนำให้คุณนำโน๊ตบุ๊คไปซ่อม หรือหากพบว่า มีอาการไหนที่สามารถแก้ไขเบื้องต้นได้ด้วยตัวเอง ก็ถึงเวลาที่ต้องดำเนินการแก้ไขสักที

>> ปรึกษาปัญหาอาการเสีย โน๊ตบุ๊ค คลิกเลย

อาการเสียที่พบได้บ่อยของโน๊ตบุ๊ค

7 อาการเสียยอดนิยมของ โน๊ตบุ๊ค ปี 2022 มีดังนี้

1.  หน้าจอโน๊ตบุ๊คไม่ติด แต่เครื่องยังทำงานอยู่

บางครั้งอาจค้างก่อนแล้วใส่เครื่องจึงดับ ซึ่งอาการนี้ทำให้ไม่สามารถใช้งานใด ๆ ได้เลย ไม่ว่าจะทำการคลิกหรือเข้าสู่เมนูใด ๆ ก็ตาม

2.  โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ได้หน้าจอดับ

โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด จอดํา ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เป็นได้ตั้งแต่ฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์ของโน๊ตบุ๊คทำงานผิดปกติ สายชาร์จไฟ Adapter เสีย หรือฮาร์ดดิสก์เสียหาย

3.  โน๊ตบุ๊คเปิดติด แต่เข้า Windows ไม่ได้

สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งความจำเครื่องเต็ม เครื่องโดนไวรัส แรมเต็มบวกกับไม่ค่อยได้ทำความสะอาด

4.  โน๊ตบุ๊คไม่มีเสียงตอนใช้ซาวด์การ์ดโน๊ตบุ๊ค

เกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยส่วนใหญ่เกิดจาก Output ของเสียงหรือ Playback ไม่ถูกประเภท

5.  โน๊ตบุ๊คต่อ WIFI ไม่ได้

อาจมีความเป็นไปได้ที่มีสาเหตุมาจากฮาร์ดแวร์สั่งเครื่องโน๊ตบุ๊คและ Router WIFI รวมถึงอาจเกิดจากซอฟต์แวร์ที่ใช้มีปัญหา ตัวรับสัญญาณ wifi โน๊ตบุ๊คหาย

6.  จอมืด จอเห็นจาง ๆ หรือเจอแต่เมาส์

มักเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นส่วนของการแสดงผลมีปัญหา ชิปการ์ดจอหรือตัวหน้าจอเองไฟล์สำหรับบูธเข้า OS มีปัญหา HHD / SSD มีปัญหา

7.  โน๊ตบุ๊คร้อนแล้วดับ

โน๊ตบุ๊คร้อน เปิดไม่ติด เกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่จำเพาะเพียงแค่หน้าจอเท่านั้น แต่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ทั้งจากตัวเครื่อง จอแสดงผล เมนบอร์ด และสายแพ ซึ่งเป็นปัญหาที่แก้ไขได้ค่อนข้างยากและไม่แนะนำให้ทำด้วยตัวเอง ต้องใช้ผู้ที่มีความชำนาญเท่านั้น

อย่างไรก็ตามทั้ง 7 อาการเสียยอดนิยมของ โน๊ตบุ๊ค ปี 2022 ที่เรากล่าวไปข้างต้นนั้น จำเป็นต้องอาศัยการทำความเข้าใจและเมื่อรู้แล้วว่า มีสาเหตุโดยรวมประมาณไหน ก็จะช่วยทำให้คุณสามารถตัดสินใจได้ว่า ควรทำอย่างไรหรือแก้ไขแบบไหน โดยทางที่ดีเราอยากแนะนำให้สอบถามกับผู้เชี่ยวชาญหรือร้านซ่อมดีกว่าการดำเนินการด้วยตัวเอง เพราะอาจมีความเป็นไปได้ที่นอกจากจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้แล้ว อาจเพิ่มปัญหามากกว่าเดิม

>> ติดต่อ ร้านซ่อมโน๊ตบุ๊ค คลิกเลย


ร้านซ่อมโน๊ตบุ๊ค  ทุกอาการเสีย Tech Avenue

Fix Notebook Repair Near ME


รีวิวจริงจากลูกค้า ที่ใช้บริการร้าน Tech Avenue


วิธีส่งซ่อม โน๊ตบุ๊ค ที่ร้าน Tech Avenue

ร้าน Tech Avenue ร้านซ่อม โน๊ตบุ๊ค  ที่มีหลากหลายช่องทางในการส่งเครื่องมาซ่อมที่ร้านของเรา ตามที่ลูกค้าสะดวกที่สุด เพราะเราใส่ใจเรื่องความสะดวก ของลูกค้าเป็นสำคัญที่สุด คือช่องทางที่ส่งซ่อม ไม่ว่าจะเป็น


ที่คนค้นหาเกี่ยวกับเนื้อหานี้ :

6 วิธีแก้ไข ปัญหาโน๊ตบุ๊ค เปิดไม่ติด ทำเองได้ง่าย ๆ

0

โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติดเป็นปัญหาสุดคลาสสิคที่ใคร ๆ ก็ต้องเจอ ซึ่งบอกเลยว่า ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเป็นหายนะของใครหลาย ๆ คนเลยก็ว่าได้ ยิ่งต้องทำงานให้เสร็จทันเวลาแต่ต้องมาเจอกับปัญหาที่สร้างความหงุดหงิดรำคาญใจด้วยแล้ว ยิ่งต้องรีบหาทางแก้ไข จะเรียกช่างมาซ่อมต้องเสียเวลาในการติดต่อนัดหมายและใช้เวลานานกว่าจะพร้อมดำเนินการได้ ดังนั้นในวันนี้เราจึงมี 6 วิธีแก้ไข ปัญหาโน๊ตบุ๊ค เปิดไม่ติด ทำเองได้ง่าย ๆ มาแนะนำ

>> ปรึกษาปัญหาอาการเสีย โน๊ตบุ๊ค คลิกเลย

6 วิธีแก้ไข ปัญหาโน๊ตบุ๊ค เปิดไม่ติด ทำเองได้ง่ายๆ

หากพบว่า โน๊ตบุ๊คมีปัญหาเปิดไม่ติด สามารถทำตาม 6 วิธีแก้ไข ปัญหาโน๊ตบุ๊ค เปิดไม่ติด ทำเองได้ง่าย ๆ ดังต่อไปนี้

1.  ขยับปลั๊ก 

การแก้ไขปัญหาโน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด ทำเองได้ง่าย ๆ วิธีแรกเริ่มต้นที่อุปกรณ์ใกล้ตัวที่สุด นั่นก็คือ การขยับลักสายชาร์จที่อาจมีความเป็นไปได้ว่า ไม่แน่นหรือไฟไม่เข้า จนส่งผลให้เมื่อใช้โน๊ตบุ๊คไปสักระยะ แล้วโน๊ตบุ๊คดับและไม่สามารถเปิดเครื่องได้ หรือมองหาแถบแสดงสถานการณ์ชาร์จไฟของโน๊ตบุ๊คแล้วปรากฏว่า บริเวณดังกล่าวไม่มีแสงไฟเกิดขึ้น อาจมีความเป็นไปได้ว่า สายชาร์จของคุณกำลังมีปัญหา

2.  ชาร์จไฟกระตุ้นแบตสักระยะ

โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด แต่ไฟเข้า วิธีการนี้สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการชาร์จกระตุ้นแบตเตอรี่ประมาณ 30 นาที – 4 ชั่วโมง และต่อด้วยการกดปุ่ม Power จากนั้นให้ลองดึงสายไฟที่ต่อจากโน๊ตบุ๊คออก และกดปุ่ม Power อีกครั้ง 

3.  ถอด USB-C Multiport Adapter 

สำหรับวิธีการแก้ไขวิธีการที่ 3 สำหรับคนที่พบว่า ปัญหาที่โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด ไม่ได้มีสาเหตุมาจากสายชาร์จไฟ แนะนำให้ถอดอุปกรณ์เชื่อมต่าง ๆ ออกจากตัวเครื่องทั้งหมดที่เกิดจากการที่ระบบ Windows ได้ทำการพยายามเรียกบูสท์เครื่องจากเมมโมรี่การ์ดหรืออุปกรณ์อื่น ๆ ที่เชื่อมต่อกับโน๊ตบุ๊คอยู่ ส่งผลให้ไม่สามารถเปิดเครื่องได้ อย่างไรก็ตามปัญหานี้มักเกิดขึ้นเฉพาะคนที่เพิ่งล้างเครื่องและลง Windows ใหม่เท่านั้น แต่หากในอนาคตไม่อยากให้ต้องเผชิญกับปัญหานี้ แนะนำให้เข้าไปตั้งค่า bios ให้บูสท์จาก drive ที่ติดตั้ง Windows ไว้เป็นอันดับแรกจะดีกว่า เปลี่ยน USB Port โน๊ตบุ๊ค

4.  ล้างไวรัส

ในกรณีที่โน๊ตบุ๊คไวรัสเข้าอาจเป็นสาเหตุทำให้ไม่สามารถเปิดเครื่องได้ วิธีแก้ไขปัญหาเบื้องต้นง่าย ๆ นั่นก็คือ ให้บูสท์เข้า Safe Mode หากพบว่า มีสาเหตุเกิดจากไวรัสจริงให้รีบทำการถอนโปรแกรมหรือมัลแวร์ที่แฝงเข้ามาในตัวเครื่องออกไปทั้งหมด 

5.  กดปุ่ม Power ค้าง

ในกรณีที่พบว่า เครื่องเปิดไม่ติดหรือเปิดแล้วเข้า Windows ตามปกติไม่ได้ แนะนำให้กดปุ่ม Power ค้าง 10 วินาที เมื่อโน๊ตบุ๊คติดขึ้นมาให้กด Power ค้างอีกครั้งเพื่อดับเครื่อง โดยทำแบบนี้ซ้ำ 3 ครั้ง ตัวเครื่องก็จะบูสท์เข้าสู่ Safe Mode

6.  เปลี่ยนถ่าน CMOS

กรณีที่จำเป็นต้องเปลี่ยนถ่าน CMOS หรือ Complementary Metal Oxide Semiconductor ต้องทำการตรวจสอบก่อนว่า ถ่านนี้ยังมีประสิทธิภาพอยู่หรือไม่ โดยมีวิธีการสังเกตสัญญาณเตือนง่าย ๆ ดังนี้

  • เปิดโน๊ตบุ๊คไม่ได้หรือบางครั้งอาจเปิดติด
  • วันและเวลาที่ตั้งค่าไว้หายไป
  • อุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ทำงานไม่เป็นปกติ
  • Driver บางตัวไม่ทำงานหรือหายไป
  • ต่ออินเทอร์เน็ตด้วย WIFI หรือแลนไม่ได้
  • มีเสียงปี๊บดังมาจากโน้ตบุ๊ก

ดังนั้นหากพบว่า มีอาการเปิดเครื่องไม่ติดและลองแก้ไขด้วยวิธีการอื่น ๆ แล้วยังไม่ได้ผล ก็อาจมีความเป็นไปได้ที่การเปลี่ยนถ่าน CMOS อาจช่วยได้ อย่างไรก็ตามหากทำทุกวิธีที่กล่าวไปไม่ได้ผล แนะนำให้นำเครื่องไปพบช่างเพื่อตรวจหาหาสาเหตุอย่างละเอียดและซ่อมแซมอย่างถูกวิธีจะดีกว่า  

>> ติดต่อ ร้านซ่อมโน๊ตบุ๊ค คลิกเลย


ร้านซ่อมโน๊ตบุ๊ค  ทุกอาการเสีย Tech Avenue

ร้านซ่อมNotebook


รีวิวจริงจากลูกค้า ที่ใช้บริการร้าน Tech Avenue


วิธีส่งซ่อม โน๊ตบุ๊ค ที่ร้าน Tech Avenue

ร้าน Tech Avenue ร้านซ่อม โน๊ตบุ๊ค  ที่มีหลากหลายช่องทางในการส่งเครื่องมาซ่อมที่ร้านของเรา ตามที่ลูกค้าสะดวกที่สุด เพราะเราใส่ใจเรื่องความสะดวก ของลูกค้าเป็นสำคัญที่สุด คือช่องทางที่ส่งซ่อม ไม่ว่าจะเป็น


ที่คนค้นหาเกี่ยวกับเนื้อหานี้ :

5 สาเหตุ ที่ทำให้โน๊ตบุ๊คค้าง พร้อมวิธีแก้ไขเบื้องต้น

0

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ปัญหาโน๊ตบุ๊คค้างนั้นเป็นปัญหาพื้นฐานที่ใครหลายคนต้องเผชิญกันมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน และยิ่งไปกว่านั้น คือ สร้างความรำคาญใจให้กับผู้ใช้งานอย่างมาก บางครั้งถึงขั้นหงุดหงิด หัวร้อน อยากโยนทิ้ง หรือไม่ก็เลือกซื้อเครื่องใหม่ไปเลย เพราะน่าจะเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาที่รวดเร็วมากกว่า สำหรับใครที่มีงบประมาณเพียงพอก็สามารถเลือกใช้วิธีการนี้ได้โดยไม่เดือดร้อน แต่สำหรับคนที่พบว่า ตนเองยังอยากใช้งานโน๊ตบุ๊คเครื่องเก่าอยู่ แล้วอยากได้วิธีการแก้ไข ในวันนี้เราจะพาคุณไปทำความเข้าใจ 5 สาเหตุ ที่ทำให้โน๊ตบุ๊คค้าง พร้อมวิธีแก้ไขเบื้องต้น มาให้คุณได้ลองนำไปใช้

>> ปรึกษาปัญหาอาการเสีย โน๊ตบุ๊ค คลิกเลย

5 สาเหตุ ที่ทำให้โน๊ตบุ๊คค้าง พร้อมวิธีแก้ไขเบื้องต้น

ก่อนที่จะทำการซ่อมหรือแก้ไขปัญหาที่กำลังจะเกิดขึ้น คุณควรมีความเข้าใจถึงสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นก่อนว่า มีอะไรบ้างและความเป็นไปได้ที่โน๊ตบุ๊คค้างมีสาเหตุ ดังต่อไปนี้

1.  ยังไม่ได้อัปเดต Windows

ในกรณีที่กำลังใช้งานโน๊ตบุ๊คโดยปกติและไม่มีการโหลดโปรแกรมหรือทำอะไรเพิ่มเติมเลย แต่พบว่า โน๊ตบุ๊คค้าง อาจมีความเป็นไปได้ที่เวอร์ชันของ Windows ที่คุณกำลังใช้เป็น Windows เวอร์ชันเก่าที่อาจส่งผลให้ไม่สามารถรองรับการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงพอ โน๊ตบุ๊ค อัพเดทไม่เสร็จ

วิธีการแก้: อัปเดต Windows

2.  โปรแกรมมีปัญหา

ในกรณีที่กำลังเล่นเกมหรือใช้งานโปรแกรมใดโปรแกรมหนึ่งแล้วพบว่า โน๊ตบุ๊คค้าง อาจมีความเป็นไปได้ที่มีสาเหตุมาจากตัวโปรแกรมเองหรือการใช้งานแรมหรือดิสก์ที่เยอะเกินไป

วิธีการแก้: ปิดหรือลบโปรแกรมที่ไม่จำเป็นออก 

3.  การ์ดจอมีปัญหา

หากคุณพบว่า โน๊ตบุ๊ค จอค้าง มีปัญหา ในช่วงเวลาที่คุณกำลังดูวิดีโอออนไลน์อยู่ แล้วมีอาการค้างเกิดขึ้น ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากการ์ดจอประมวลผลได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพหรือเสื่อมประสิทธิภาพลง

วิธีการแก้: รีสตาร์ตเครื่อง

4.  พื้นที่แรมเต็ม 

อาการในลักษณะนี้มักเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เราใช้งานโปรแกรมหลายโปรแกรมพร้อมกัน หรือใช้งานอินเทอร์เน็ต เปิดหลายแท็บพร้อมกัน ซึ่งส่งผลทำให้แรมไม่สามารถรองรับการใช้งานทั้งหมดพร้อมกันได้ และส่งผลทำให้โน๊ตบุ๊คค้างตามมาโน๊ตบุ๊ค แรมน้อย  

วิธีการแก้: เพิ่มพื้นที่แรม ด้วยการใช้งานแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ใช้สำหรับการจัดเก็บข้อมูล เช่น Google Drive, Google Chrome หรือ Cloud เป็นต้น

5.  ความร้อนสูงเกินไป

หากโน๊ตบุ๊คมีการระบายความร้อนได้ไม่ดี อาจส่งผลทำให้ค้างได้ง่าย ซึ่งอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุทั้งปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายใน สำหรับวิธีการแก้ไขแนะนำให้เปิดพัดลมในขณะที่ใช้งาน หรือเมื่อพบว่า เครื่องร้อนแล้วให้ทำการปิดเครื่องประมาณ 30 นาที แล้วค่อยกลับมาเล่นใหม่

หวังว่า 5 สาเหตุ ที่ทำให้โน๊ตบุ๊คค้าง พร้อมวิธีแก้ไขเบื้องต้นที่กล่าวไปต้น จะมีประโยชน์สำหรับคนที่กำลังเผชิญกับปัญหาอาการหัวร้อนและหงุดหงิดกับอุปกรณ์การทำงาน ที่ขยับนั่นนิดนี่หน่อยก็ดูเหมือนจะค้างไปเสียหมดสามารถกลับมาใช้งานได้อย่างรวดเร็ว แต่อย่างไรก็ตามหากพบว่า ทำการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นแล้วยังพบว่า โน๊ตบุ๊คยังคงค้างอยู่ แนะนำให้ปรึกษาช่างหรือให้ช่างทำการตรวจสอบจะดีกว่า

>> ติดต่อ ร้านซ่อมโน๊ตบุ๊ค คลิกเลย


ร้านซ่อมโน๊ตบุ๊ค  ทุกอาการเสีย Tech Avenue

Fix Notebook Repair Near ME


รีวิวจริงจากลูกค้า ที่ใช้บริการร้าน Tech Avenue


วิธีส่งซ่อม โน๊ตบุ๊ค ที่ร้าน Tech Avenue

ร้าน Tech Avenue ร้านซ่อม โน๊ตบุ๊ค  ที่มีหลากหลายช่องทางในการส่งเครื่องมาซ่อมที่ร้านของเรา ตามที่ลูกค้าสะดวกที่สุด เพราะเราใส่ใจเรื่องความสะดวก ของลูกค้าเป็นสำคัญที่สุด คือช่องทางที่ส่งซ่อม ไม่ว่าจะเป็น


ที่คนค้นหาเกี่ยวกับเนื้อหานี้ :

โน๊ตบุ๊คเสีย สอบถามฟรี !
แอดไลน์คุยกับเราที่ @Notebooks แอด LINE คลิก