ซ่อม Notebook: เปิด ฝา โน๊ ต บุ๊ค แล้ว เครื่อง ติด เอง

12 กันยายน 2022

คีย์บอร์ดเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ใช้ในการพิมพ์งาน เล่นเกม หรือใช้งานโน๊ตบุ๊คทำกิจกรรมอื่น ๆ ซึ่งถือเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญมากที่สุด ที่หากใช้งานไม่ได้ก็อาจกลายเป็นปัญหาที่สร้างความหงุดหงิด รำคาญใจตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งการที่คีย์บอร์ดพิมพ์ไม่ได้นั้น ก็สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมบลูทูธไม่เสถียร สาย USB ขาด และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ด้วย 7 วิธีแก้ไข ปัญหาโน๊ตบุ๊ค คีย์บอร์ด พิมพ์ไม่ได้ ใหม่ล่าสุด ปี 2022 ในบทความนี้

7 วิธีแก้ไข ปัญหาโน๊ตบุ๊ค คีย์บอร์ด พิมพ์ไม่ได้ ใหม่ล่าสุด ปี 2022

สำหรับใครที่กำลังพบปัญหาคีย์บอร์ดโน๊ตบุ๊คพิมพ์ไม่ได้ สามารถทำตามขั้นตอนการแก้ไข ดังต่อไปนี้

1. Restart โน๊ตบุ๊ค

สำหรับวิธีการแก้ไขที่ง่ายที่สุดและทำได้แทบทันที นั่นก็คือ ให้คุณลอง Restart สัก 1 ครั้ง แล้วจากนั้นลองใช้งานคีย์บอร์ดดูว่า สามารถใช้ได้หรือไม่ หากพบว่า ยังใช้ไม่ได้ ก็ให้ใช้วิธีการแก้ไขปัญหาในข้อถัดไป

2. ปิดฟีเจอร์ Sticky Keys

ถึงแม้ฟีเจอร์นี้ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน คือ กดเพียงแค่ปุ่มเดียวสามารถเข้าสู่ระบบหรือการใช้งานที่ต้องการได้ไม่ต้องเสียเวลาในการกดปุ่มหลายปุ่ม แต่อย่างไรก็ตามฟีเจอร์เหล่านี้อาจส่งผลทำให้ปุ่มดังกล่าวไม่สามารถทำงานได้ หรือหากใช้งานปุ่มใดปุ่มหนึ่งมากเกินไปอาจทำให้เกิดการค้าง ดังนั้นให้ลองปิดฟีเจอร์นี้ดูและลองพิมพ์ดูอีกครั้ง หากพบว่า ยังไม่ได้ให้ลองใช้วิธีการต่อไป

3. ลบ Driver ของคีย์บอร์ดแล้วติดตั้งใหม่

ในการแก้ไขนี้สันนิษฐานได้ว่า มีสาเหตุมาจาก Driver ของคีย์บอร์ดเกิดปัญหาจนใช้งานไม่ได้ ซึ่งวิธีการแก้ไขก็เพียงแค่ทำการลบ Driver ดังกล่าว แล้วทำการโหลดใหม่อีกครั้ง

4. อัปเดต Driver

หากลองวิธีที่กล่าวไปก่อนหน้าแล้วยังพบว่า มีปัญหาคีย์บอร์ดใช้งานไม่ได้ ก็อาจมีความเป็นไปได้ที่เวอร์ชันที่ทำการดาวน์โหลดมายังคงเป็นเวอร์ชันเก่าสิ่งที่ต้องทำอันดับถัดไป นั่นก็คือ ทำการอัปเดตเพื่อให้เป็นเวอร์ชันใหม่ล่าสุด

5. เช็กคีย์บอร์ด

ในกรณีที่ใช้คีย์บอร์ดแยกออกมาจากตัวโน้ตบุ๊กให้ทำการเช็กว่า คีย์บอร์ดมีบริเวณไหนที่เสียหายหรือไม่ ยังเชื่อมต่อสัญญาณบลูทูธอยู่หรือไม่ หากพบว่า ยังคงเชื่อมอยู่ แต่มีปัญหากดคีย์บอร์ดไม่ได้ ให้ลองทำการยกเลิกการเชื่อมต่อแล้วกดเชื่อมต่อใหม่อีกครั้งดู ปัญหาคีย์บอร์ด กดไม่ติด

6. สาย USB มีปัญหา

ในกรณีที่เป็นแป้นพิมพ์คีย์บอร์ดที่มีการเชื่อมต่อแบบสาย USB ให้ลองทำการตรวจสอบว่า บริเวณสายมีบริเวณใดชำรุดหรือเกิดความเสียหายหรือไม่ เพราะนั่นอาจกลายเป็นสาเหตุส่งผลทำให้แป้นพิมพ์ดังกล่าวพิมพ์ไม่ได้หรือแป้นพิมพ์เสียนั่นเอง เปลี่ยน USB โน๊ตบุ๊ค

7. ส่งซ่อม

หลังจากที่ลองมาทุกวิธีที่เรากล่าวไปข้างต้นแล้วปรากฏว่า ไม่ได้ผลเลยสักวิธี วิธีการที่ต้องทำอันดับถัดไป นั่นก็คือ ส่งซ่อม เพราะวิธีการนี้จะทำให้คุณรู้ถึงสาเหตุและปัญหาที่เกิดขึ้นจริง ๆ โดยมีผู้เชี่ยวชาญเป็นคนให้คำแนะนำ ร้านซ่อมโน๊ตบุ๊คที่ดีที่สุด

หวังว่า 7 วิธีแก้ไข ปัญหาโน๊ตบุ๊ค คีย์บอร์ด พิมพ์ไม่ได้ ใหม่ล่าสุด ปี 2022 จะสามารถแก้ไขปัญหาสำหรับคนที่กำลังเผชิญสถานการณ์ดังกล่าวอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่อย่างไรก็ตามหากพบว่า ปัญหาที่กำลังเผชิญนั้นเป็นปัญหาที่ยากจะดำเนินการแก้ไขได้ด้วยตัวเอง เราก็อยากแนะนำให้ส่งซ่อมหรือนำอุปกรณ์โน๊ตบุ๊คให้ช่างทำการตรวจสอบ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงจะดีกว่า

ร้านซ่อมโน๊ตบุ๊ค ทุกอาการเสีย Tech Avenue

รีวิวจริงจากลูกค้า ที่ใช้บริการร้าน Tech Avenue

วิธีส่งซ่อม โน๊ตบุ๊ค ที่ร้าน Tech Avenue

ร้าน Tech Avenue ร้านซ่อม โน๊ตบุ๊ค ที่มีหลากหลายช่องทางในการส่งเครื่องมาซ่อมที่ร้านของเรา ตามที่ลูกค้าสะดวกที่สุด เพราะเราใส่ใจเรื่องความสะดวก ของลูกค้าเป็นสำคัญที่สุด คือช่องทางที่ส่งซ่อม ไม่ว่าจะเป็น

9 วิธีแก้ไข ปัญหาโน๊ตบุ๊ค เชื่อมต่อ WiFi ไม่ได้ อัพเดท ปี 2022

โดย

12 กันยายน 2022

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในปัจจุบันโน๊ตบุ๊คนั้นเป็นอุปกรณ์ที่สะดวกสบาย ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่คนทำงาน เพราะนอกจากจะสามารถพกพาไปทำงานได้ทุกที่ทุกเวลาแล้ว ยังสามารถใช้ดูหนังฟังเพลงหรือสร้างสรรค์ความบันเทิงให้กับตัวเองได้ แต่อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลยหากไม่มี WiFi หรืออินเทอร์เน็ต ซึ่งถือเป็นปัญหาคลาสสิคที่ไม่ว่าใครต่างก็ต้องพบเจอ และที่สำคัญไปมากกว่านั้น คือ ปัญหาดังกล่าวนั้นยังเกิดจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์มีปัญหา อุปกรณ์พัง และอื่น ๆ อีกมากมาย ดังนั้นเพื่อแก้ไขปัญหาเราจึงมี 9 วิธีแก้ไข ปัญหาโน๊ตบุ๊ค เชื่อมต่อ WiFi ไม่ได้ อัพเดท ปี 2022 มาแนะนำ

9 วิธีแก้ไข ปัญหาโน๊ตบุ๊ค เชื่อมต่อ WiFi ไม่ได้ อัพเดท ปี 2022

อย่างที่เราได้กล่าวไปว่า การที่ เชื่อมต่อสัญญาณ WiFi ไม่ได้ นั้น สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ และแต่ละสาเหตุก็จำเป็นต้องใช้วิธีในการแก้ไขที่แตกต่างกัน และวิธีการที่ว่า มีดังต่อไปนี้

1. เช็กว่า เปลี่ยนรหัส WiFi หรือไม่

ในกรณีที่คุณทำการเปลี่ยนรหัส WiFi จะส่งผลทำให้โน๊ตบุ๊คไม่สามารถทำการเชื่อมต่อกับ WiFi ดังกล่าวได้ นอกจากจะทำการยกเลิกการเชื่อมต่อและกดเชื่อมต่อใหม่อีกครั้ง ด้วยการกรอกรหัสผ่านใหม่จึงจะสามารถใช้งานได้

2. ดูว่า เผลอกดปิด WiFi หรือไม่

แม้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่ก็มักเป็นปัญหาที่หลายคนอาจมองข้ามและเกิดขึ้นบ่อย เพราะการใช้ชีวิตเร่งรีบและเต็มไปด้วยความสับสน อาจทำให้เผลอกดปิด WiFi ไปโดยไม่ได้ตั้งใจ จนทำให้ไม่สามารถทำการเชื่อมต่อได้ ซึ่งวิธีการแก้ไขก็ง่าย ๆ เลย แค่ทำการตรวจสอบดูว่า ตนเองได้เปิด WiFi อยู่หรือเปล่า ณ ขณะที่กำลังเชื่อมอยู่ หากไม่ก็เพียงแค่กดเปิด แต่หากเปิดแล้วแสดงว่า อาจเกิดจากปัญหาอื่น

3. รีเซต Modem

สิ่งที่ต้องการให้ทำ คือ ให้ทำการรีเซตเราเตอร์ เพื่อดูไฟสัญญาณของผู้ให้บริการว่า เป็นอย่างไร คือ

p o n

l o s

4. รีสตาร์ตเครื่องใหม่

ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาที่มีสาเหตุเกิดจากตัว Driver หรือ Windows ทำงานผิดปกติ

5. ดูว่า เปิดโหมดเครื่องบินอยู่หรือไม่

สาเหตุที่โน๊ตบุ๊คไม่สามารถเชื่อม WiFi ได้อาจมีความเป็นไปได้ที่คุณกำลังอยู่ในโหมดเครื่องบิน

6. เช็กเสาสัญญาณ

เพื่อดูว่า มีบริเวณจุดไหนหลวมหรือไม่ พร้อมทั้งทำการอัพเดท Driver

7. เปลี่ยน IP Address

สาเหตุที่เชื่อมต่อ WiFi ไม่ได้อาจเกิดจาก IP ของโน้ตบุ๊กเครื่องอื่นเหมือนกับของเรา

8. ปิดโปรแกรม Antivirus

โปรแกรมสแกนไวรัสบางโปรแกรมอาจเป็นต้นเหตุในการบล็อกสัญญาณอินเทอร์เน็ตหรือสัญญาณ WiFi

9. ติดตั้ง Driver ใหม่

หากพบว่า Driver ยังคงเป็นเวอร์ชันเก่า แนะนำให้เปลี่ยนเป็นเวอร์ชันใหม่

หวังว่า 9 วิธีแก้ไข ปัญหาโน๊ตบุ๊ค เชื่อมต่อ WiFi ไม่ได้ อัพเดท ปี 2022 ที่กล่าวไปข้างต้น จะสามารถแก้ไขปัญหาที่หลายคนกำลังเผชิญอยู่ได้ โดยไม่ต้องเสียเวลาในการโทรตามช่างหรือต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เพิ่มเติม เพราะสามารถดำเนินการได้ด้วยตัวเอง

ร้านซ่อมโน๊ตบุ๊ค ทุกอาการเสีย Tech Avenue

รีวิวจริงจากลูกค้า ที่ใช้บริการร้าน Tech Avenue

วิธีส่งซ่อม โน๊ตบุ๊ค ที่ร้าน Tech Avenue

สาเหตุที่ทำให้ โน๊ตบุ๊คร้อน และวิธีแก้ไขเบื้องต้นง่ายๆ

โดย

12 กันยายน 2022

ปฏิเสธไม่ได้ว่า โน๊ตบุ๊คร้อนนั้นเป็นปัญหาที่ทำให้ใครหลายคนเกิดความรู้สึกหงุดหงิดและรำคาญใจ เพราะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็จะตามมาด้วยโน๊ตบุ๊คค้าง ใช้งานไม่ได้ จะติดต่อให้ช่างมาซ่อมก็ดูเหมือนยุ่งยากและใช้เวลานานเกินไป ดังนั้นในวันนี้เราจึงจะพาคุณไปทำความเข้าใจถึง สาเหตุที่ทำให้ โน๊ตบุ๊คร้อน และวิธีแก้ไขเบื้องต้นง่ายๆ ที่จะทำให้คุณหายหัวร้อน

สาเหตุที่ทำให้ โน๊ตบุ๊คร้อน และวิธีแก้ไขเบื้องต้นง่ายๆ

โน๊ตบุ๊คร้อนสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งจากปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก แต่สาเหตุที่เราจะพูดถึงในวันนี้เน้นเป็นปัจจัยภายใน พร้อมทั้งวิธีการแก้ไขเบื้องต้นง่าย ๆ ที่คุณสามารถทำตามได้ในทันที

1. ใช้งานต่อเนื่องนานเกินไป

ระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่องกันมากกว่า 3 – 5 ชั่วโมง จะส่งผลทำให้เครื่องโน๊ตบุ๊คร้อนเกินกว่าอุณหภูมิปกติ ซึ่งสามารถสังเกตได้จากระบบการปฏิบัติการต่าง ๆ เริ่มช้าและหนืดกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็น Microsoft Word การเข้าอินเทอร์เน็ต โน๊ตบุ๊คมีปัญหา หรือโปรแกรมใด ๆ ก็ตามบนคอมพิวเตอร์ วิธีการแก้ไขง่าย ๆ เบื้องต้น คือ ให้คุณ Shut Down คอมพิวเตอร์ประมาณ 30 นาที หรือรอจนกว่าโน๊ตบุ๊คเย็นลง แล้วค่อยเปิดเครื่องและเข้าใช้งาน

2. เปิดแท็บอินเทอร์เน็ตเยอะเกินไป

บางคนการจะโฟกัสไปกับการทำงานหรือทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งอาจไม่สนุกสนานหรือสร้างสรรค์มากพอ จึงอยากทำงานพร้อมกับการฟังเพลง เขียนนิยายไปพร้อม ๆ กับการดูหนัง ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้โน๊ตบุ๊คร้อน ดังนั้นเมื่อทำการเปิดแท็บและหากพบว่า แท็บดังกล่าวไม่ต้องการใช้งานแล้ว ก็ควรปิดให้เหลือประมาณ 1 – 3 แท็บ ก็จะช่วยทำให้โน๊ตบุ๊คทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และอุณหภูมิลดลง

3. ลบโปรแกรมที่ไม่ใช้งาน

โปรแกรมแต่ละตัวนั้นมีลักษณะการใช้งานที่เฉพาะตัว และความเฉพาะตัวนี้เองก็มาพร้อมกับคุณสมบัติที่ช่วยทำให้สามารถสร้างความสะดวกสบายในการใช้งาน แต่ภายใต้ความสะดวกสบายเหล่านั้นมักมาพร้อมกับระบบที่ซับซ้อนและใช้พลังงานเยอะ ส่งผลทำให้คอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊คจำเป็นต้องประมวลผลมากขึ้น ส่งผลทำให้ความร้อนเพิ่มสูงขึ้นนั่นเอง ดังนั้นหากเป็นไปได้จึงควรทำการลบโปรแกรมที่ไม่ใช้แล้วออกไปบ้าง เพื่อไม่ให้กินพื้นที่มากเกินไป

4. แบตเตอรี่เสื่อม

แน่นอนว่า ทุกอย่างย่อมมีอายุการใช้งานเช่นเดียวกันกับโน๊ตบุ๊คและแบตเตอรี่ หากพบว่า ใช้งานมานานกว่า 3 – 5 ปีแล้ว ยิ่งทำให้มีโอกาสพบว่า เครื่องร้อนได้ง่ายขึ้น ดังนั้นหากลองทำการตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นปัญหาที่เกิดจากตัวแบตเตอรี่เสื่อม ก็ควรรีบทำการเปลี่ยนทันที ก่อนที่ปัญหานั้นจะลุกลามและทำลายระบบภายในเครื่อง

หวังว่า ทั้งสาเหตุและวิธีการแก้ไขเบื้องต้น จะสามารถแก้ไขปัญหาโน๊ตบุ๊คร้อนได้อย่างตรงจุด ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากปัจจัยภายใน แต่อย่างไรก็ตามสำหรับปัจจัยภายนอกเองก็เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลเช่นเดียวกัน เช่น สภาพอากาศ สถานที่อับ ที่อาจส่งผลทำให้อากาศถ่ายเทไม่สะดวกหรือมีฝุ่นละอองมากเกินไป ส่งผลทำให้โน๊ตบุ๊คร้อน ดังนั้นก็อย่าลืมทำการสำรวจสิ่งแวดล้อมหรือบรรยากาศโดยรอบด้วยว่า กระตุ้นทำให้เกิดปัญหาดังกล่าวหรือไม่ หากใช่ ก็ควรรีบทำการปรับเปลี่ยนหรือแก้ไข

ร้านซ่อมโน๊ตบุ๊ค ทุกอาการเสีย Tech Avenue

รีวิวจริงจากลูกค้า ที่ใช้บริการร้าน Tech Avenue

วิธีส่งซ่อม โน๊ตบุ๊ค ที่ร้าน Tech Avenue

2 วิธีตรวจสอบอาการเบื้องต้น เมื่อโน๊ตบุ๊ค จอดับ !!

โดย

12 กันยายน 2022

เชื่อว่า หลายคนเวลาที่ต้องเผชิญกับปัญหาโน๊ตบุ๊คจอดับ คงไม่อยากเสียเวลาในการพาโน๊ตบุ๊คไปหาช่างหรือทำการซ่อม เพราะอาจเนื่องด้วยเวลาว่างที่ไม่เพียงพอหรืออาจมีข้อจำกัดในเรื่องของการเดินทาง จึงอยากได้วิธีการแก้ไขหรือตรวจสอบเบื้องต้น เพื่อให้ยังสามารถใช้งานโน๊ตบุ๊คได้อยู่สักระยะ และเมื่อถึงเวลาค่อยนำไปเช็กเครื่องโดยละเอียดและทำการซ่อมแซมอย่างตรงจุด ดังนั้นในวันนี้เราจึงมี 2 วิธีตรวจสอบอาการเบื้องต้น เมื่อโน๊ตบุ๊ค จอดับ !! ง่าย ๆ มาแนะนำ

2 วิธีตรวจสอบอาการเบื้องต้น เมื่อโน๊ตบุ๊ค จอดับ !!

1. จอดับแบบไม่มีแสงสว่างที่หน้าจอ แต่พอจะเห็นเป็นภาพราง ๆ

สำหรับวิธีการตรวจสอบสามารถทำได้ง่าย ๆ คือ เมื่อเห็นว่า หน้าจอดับ ให้เราทำการเปิดไฟฉายจากมือถือส่องเข้าไปที่หน้าจอ หากพอจะมองเห็นเป็นภาพราง ๆ อาจเป็นไปได้ว่า คุณกำลังเผชิญกับปัญหาหน้าจอโน๊ตบุ๊คเสียอยู่หรืออาจมีความเป็นไปได้ว่า แผงวงจรตัวควบคุมแสงสว่างที่หน้าจออาจเสียหรือเกิดอาการช็อก วิธีการแก้ไขจำเป็นต้องเปลี่ยนยกบอร์ด อย่างไรก็ตามในกรณีที่พบว่า มีสาเหตุมาจากหน้าจอเสีย จอภาพโน๊ตบุ๊คดับ แนะนำให้ลองใช้วิธีการซื้อจอมาเปลี่ยนใหม่ดู แต่หากพบว่า ยังมีอาการ แสดงว่า มีสาเหตุมาจากตัวแผงควบคุมแสงสว่าง

2. หน้าจอดับมืดสนิทเหมือนกำลังปิดเครื่อง แต่เครื่องยังทำงานอยู่ หรือบริเวณปุ่ม Power มีแสงไฟ

หน้าจอโน๊ตบุ๊คดับ แต่เครื่องทํางาน ในกรณีนี้ไม่สามารถใช้ไฟฉายส่องและมองเห็นภาพใด ๆ ปรากฏอยู่บนหน้าจอเลย สำหรับวิธีการเช็กเบื้องต้นสามารถทำได้ด้วยวิธีการ ดังนี้

เสียบจอแยก Built in Display จะใช้เป็นจอทีวีหรือจอมอนิเตอร์ก็ได้ เพื่อลองใช้งานดู
จากนั้นให้คลิกที่ Desktop เลือก Display Setting
เลือก Advance Display Setting
คลิกที่ช่องด้านล่างชุด Display ดูว่า มีตัวเลือกขึ้น Display 1 และ Display 2 หรือไม่ หากขึ้นทั้ง Display 1 จะเป็นจอ Built in Display หรือก็คือจอหลักของโน้ตบุ๊ก Display 2 เป็นจอที่เสียบเพิ่ม แสดงว่า ถูกต้อง แต่ในกรณีที่ Display 1 ขึ้นเป็นชื่อจอแยก มีความเป็นไปได้ว่า สายแพอาจเสีย โดยตัวเครื่องไม่สามารถทำการตรวจพบหน้าจอหลักหรือ Built in Display ได้

นอกจากนี้ ยังสามารถใช้วิธีการตรวจสอบโดยการนำจอโน๊ตบุ๊คอื่นมาลองเสียบดู หากพบว่า ตัวเครื่องสามารถตรวจสอบได้ หรือทำการเปลี่ยนจอใหม่แล้วจอขึ้นเป็นปกติ ก็อาจมีความเป็นไปได้ที่หน้าจอเดิมเสีย ดังนั้นวิธีการที่ดีที่สุดจึงต้องเปลี่ยนจอใหม่ และหากเปลี่ยนแล้วภาพยังไม่ขึ้น ก็ต้องเปลี่ยนสายแพใหม่เท่านั้น

อย่างไรก็ตามวิธีการตรวจสอบที่เรากล่าวไปข้างต้นนั้น เป็นเพียงแค่วิธีการเบื้องต้นที่คุณสามารถดำเนินการได้ด้วยตัวเอง แต่เมื่อพบปัญหาหรือสาเหตุที่เกิดขึ้นแล้ว ก็ควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของช่างเป็นผู้ทำการแก้ไขหรือเปลี่ยนอุปกรณ์ต่าง ๆ เพราะหากคุณไม่มีความเชี่ยวชาญมากพอก็อาจสร้างความเสียหายให้กับโน๊ตบุ๊คมากยิ่งขึ้นได้

ร้านซ่อมโน๊ตบุ๊ค ทุกอาการเสีย Tech Avenue

รีวิวจริงจากลูกค้า ที่ใช้บริการร้าน Tech Avenue

วิธีส่งซ่อม โน๊ตบุ๊ค ที่ร้าน Tech Avenue

6 วิธีแก้ไข ปัญหาโน๊ตบุ๊ค เปิดไม่ติด ทำเองได้ง่าย ๆ

โดย

12 กันยายน 2022

โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติดเป็นปัญหาสุดคลาสสิคที่ใคร ๆ ก็ต้องเจอ ซึ่งบอกเลยว่า ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเป็นหายนะของใครหลาย ๆ คนเลยก็ว่าได้ ยิ่งต้องทำงานให้เสร็จทันเวลาแต่ต้องมาเจอกับปัญหาที่สร้างความหงุดหงิดรำคาญใจด้วยแล้ว ยิ่งต้องรีบหาทางแก้ไข จะเรียกช่างมาซ่อมต้องเสียเวลาในการติดต่อนัดหมายและใช้เวลานานกว่าจะพร้อมดำเนินการได้ ดังนั้นในวันนี้เราจึงมี 6 วิธีแก้ไข ปัญหาโน๊ตบุ๊ค เปิดไม่ติด ทำเองได้ง่าย ๆ มาแนะนำ

6 วิธีแก้ไข ปัญหาโน๊ตบุ๊ค เปิดไม่ติด ทำเองได้ง่ายๆ

หากพบว่า โน๊ตบุ๊คมีปัญหาเปิดไม่ติด สามารถทำตาม 6 วิธีแก้ไข ปัญหาโน๊ตบุ๊ค เปิดไม่ติด ทำเองได้ง่าย ๆ ดังต่อไปนี้

1. ขยับปลั๊ก

การแก้ไขปัญหาโน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด ทำเองได้ง่าย ๆ วิธีแรกเริ่มต้นที่อุปกรณ์ใกล้ตัวที่สุด นั่นก็คือ การขยับลักสายชาร์จที่อาจมีความเป็นไปได้ว่า ไม่แน่นหรือไฟไม่เข้า จนส่งผลให้เมื่อใช้โน๊ตบุ๊คไปสักระยะ แล้วโน๊ตบุ๊คดับและไม่สามารถเปิดเครื่องได้ หรือมองหาแถบแสดงสถานการณ์ชาร์จไฟของโน๊ตบุ๊คแล้วปรากฏว่า บริเวณดังกล่าวไม่มีแสงไฟเกิดขึ้น อาจมีความเป็นไปได้ว่า สายชาร์จของคุณกำลังมีปัญหา

2. ชาร์จไฟกระตุ้นแบตสักระยะ

โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด แต่ไฟเข้า วิธีการนี้สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการชาร์จกระตุ้นแบตเตอรี่ประมาณ 30 นาที – 4 ชั่วโมง และต่อด้วยการกดปุ่ม Power จากนั้นให้ลองดึงสายไฟที่ต่อจากโน๊ตบุ๊คออก และกดปุ่ม Power อีกครั้ง

3. ถอด USB-C Multiport Adapter

สำหรับวิธีการแก้ไขวิธีการที่ 3 สำหรับคนที่พบว่า ปัญหาที่โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด ไม่ได้มีสาเหตุมาจากสายชาร์จไฟ แนะนำให้ถอดอุปกรณ์เชื่อมต่าง ๆ ออกจากตัวเครื่องทั้งหมดที่เกิดจากการที่ระบบ Windows ได้ทำการพยายามเรียกบูสท์เครื่องจากเมมโมรี่การ์ดหรืออุปกรณ์อื่น ๆ ที่เชื่อมต่อกับโน๊ตบุ๊คอยู่ ส่งผลให้ไม่สามารถเปิดเครื่องได้ อย่างไรก็ตามปัญหานี้มักเกิดขึ้นเฉพาะคนที่เพิ่งล้างเครื่องและลง Windows ใหม่เท่านั้น แต่หากในอนาคตไม่อยากให้ต้องเผชิญกับปัญหานี้ แนะนำให้เข้าไปตั้งค่า bios ให้บูสท์จาก drive ที่ติดตั้ง Windows ไว้เป็นอันดับแรกจะดีกว่า เปลี่ยน USB Port โน๊ตบุ๊ค

4. ล้างไวรัส

ในกรณีที่โน๊ตบุ๊คไวรัสเข้าอาจเป็นสาเหตุทำให้ไม่สามารถเปิดเครื่องได้ วิธีแก้ไขปัญหาเบื้องต้นง่าย ๆ นั่นก็คือ ให้บูสท์เข้า Safe Mode หากพบว่า มีสาเหตุเกิดจากไวรัสจริงให้รีบทำการถอนโปรแกรมหรือมัลแวร์ที่แฝงเข้ามาในตัวเครื่องออกไปทั้งหมด

5. กดปุ่ม Power ค้าง

ในกรณีที่พบว่า เครื่องเปิดไม่ติดหรือเปิดแล้วเข้า Windows ตามปกติไม่ได้ แนะนำให้กดปุ่ม Power ค้าง 10 วินาที เมื่อโน๊ตบุ๊คติดขึ้นมาให้กด Power ค้างอีกครั้งเพื่อดับเครื่อง โดยทำแบบนี้ซ้ำ 3 ครั้ง ตัวเครื่องก็จะบูสท์เข้าสู่ Safe Mode

6. เปลี่ยนถ่าน CMOS

กรณีที่จำเป็นต้องเปลี่ยนถ่าน CMOS หรือ Complementary Metal Oxide Semiconductor ต้องทำการตรวจสอบก่อนว่า ถ่านนี้ยังมีประสิทธิภาพอยู่หรือไม่ โดยมีวิธีการสังเกตสัญญาณเตือนง่าย ๆ ดังนี้

เปิดโน๊ตบุ๊คไม่ได้หรือบางครั้งอาจเปิดติด
วันและเวลาที่ตั้งค่าไว้หายไป
อุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ทำงานไม่เป็นปกติ
Driver บางตัวไม่ทำงานหรือหายไป
ต่ออินเทอร์เน็ตด้วย WIFI หรือแลนไม่ได้
มีเสียงปี๊บดังมาจากโน้ตบุ๊ก

ดังนั้นหากพบว่า มีอาการเปิดเครื่องไม่ติดและลองแก้ไขด้วยวิธีการอื่น ๆ แล้วยังไม่ได้ผล ก็อาจมีความเป็นไปได้ที่การเปลี่ยนถ่าน CMOS อาจช่วยได้ อย่างไรก็ตามหากทำทุกวิธีที่กล่าวไปไม่ได้ผล แนะนำให้นำเครื่องไปพบช่างเพื่อตรวจหาหาสาเหตุอย่างละเอียดและซ่อมแซมอย่างถูกวิธีจะดีกว่า